cALLAN METHOD

CALLAN Method คือ...

วิธี CALLAN เป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความแตกต่างและไม่เหมือนใครเพื่อเร่งการเรียนรู้และความเข้าใจในรูปแบบภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว เป็นวิธีที่เริ่มใช้ใน ลอนดอน เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว และถือเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

QQEnglish เป็นหนึ่งในโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ESL แห่งแรกในฟิลิปปินส์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ CALLAN Method สอนโดยครูที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี และเป็นมืออาชีพ

CALLAN Method Beginner

Textbook of level 1

CALLAN Intermediate

Textbook of level 3

ทำไมต้องเลือกเรียน CALLAN Method

  • แตกต่างจากการสอนในรูปแบบอื่น เพราะเน้นการทบทวนซ้ำๆ เนื้อหาที่เรียนรู้ในบทเรียนจะทำซ้ำในบทเรียนต่อไป เพื่อที่จะทำให้สามารถจำได้ ด้วยการฝึกฝนและแก้ไขอย่างต่อเนื่องผู้เรียนจะพัฒนาการออกเสียงและความคล่องแคล่วไปพร้อมกัน
  • ออกแบบมาอย่างแม่นยำ ปราณีต เพื่อให้ผู้เรียนฝึกฝนคำศัพท์และไวยากรณ์ที่สำคัญที่สุดก่อน แม้ว่าผู้เรียนจะไม่มีพื้นฐาน ก็สามารถสนทนาเป็นภาษาอังกฤษได้ในไม่ช้า เมื่อผ่านแต่ละระดับจะมีการเพิ่มคำศัพท์และหลักไวยากรณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
  • พัฒนาทักษะการพูดและการฟังของผู้เรียนให้สื่อสารได้อย่างมีความมั่นใจมากขึ้น บทเรียนสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งจะสอนให้ผู้เรียนคิดและพูดเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องหยุดคิดหรือแปลก่อน
  • การพูดเร็วของครูผู้สอน จะทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจภาษาอังกฤษตามที่พูดอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากบทเรียนมีความรวดเร็ว ผู้เรียนจะไม่มีเวลาได้คิดเป็นของภาษาของตัวเอง หรือไม่ต้องกังวลกับการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้อง เพราะเรียนแบบการพูดสะท้อนกลับเหมือนกับตอนที่เราเรียนรู้ภาษาของเราเองตอนยังเด็ก
  • ครูผู้สอนจะแก้ไขทุกข้อผิดพลาดทันที โดยการเลียนแบบทำซ้ำในข้อผิดพลาดของผู้เรียน แล้วให้คำที่ถูกต้องกลับไปให้ผู้เรียนทำซ้ำ 
  • การศึกษากับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น 2 แห่ง พิสูจน์ว่าผู้เรียนที่ใช้วิธี CALLAN มีความก้าวหน้ามากกว่าการเรียนตามบทเรียนในวิธีอื่นๆ ในการสอนภาษาอังกฤษ สิ่งนี้ทำให้วิธีนี้เป็นวิธีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่คุ้มค่ามาก เนื่องจากผู้เรียนจะได้ผลลัพธ์ในเวลาอันสั้นกว่าวิธีอื่นๆ
  • ชั้นเรียนมีความสนุกสนานและเต็มไปด้วยกิจกรรม ดังนั้นผู้เรียนจะไม่รู้สึกเบื่อ และมีความก้าวหน้าขึ้นในทุกๆครั้งของการเรียนการสอน

สิ่งที่ครูผู้สอนทำในการเรียนแบบ CALLAN Method

  •  ครูผู้สอนจะพูดตลอดเวลาในบทเรียน
  • ครูถามคำถามจากหนังสือ
  • คำถามแต่ละข้อฝึกฝนคำศัพท์ สำนวน หรือไวยากรณ์
  • ครูถามคำถามสองครั้งในกรณีที่คุณไม่เข้าใจในครั้งแรก
  • ครูให้คำตอบโดยให้คำ 2 -3 คำแรกแก่ผู้เรียน สิ่งนี้ช่วยให้ผู้เรียนเริ่มพูดได้ทันทีแม้ว่าผู้เรียนจะไม่รู้คำตอบก็ตาม นอกจากนี้ยังหยุดผู้เรียนจากการแปลและคิดเกี่ยวกับคำศัพท์หรือไวยากรณ์

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้ทำในการเรียนแบบ CALLAN Method

  • เมื่อครูขอให้ผู้เรียนตอบคำถาม พยายามตอบให้ครบและใช้คำและโครงสร้างทางไวยากรณ์ในทิศทางเดียวกันกับคำถาม เช่น 

ครู : Are you speaking French?

นักเรียน : No, I’m not speaking French, I’m speaking English.

การตอบคำถามในเชิงปฎิเสธ และตามด้วยเชิงบวก ผู้เรียนจะได้รับโอกาสในการฝึกฝนรูปแบบเชิงบวกและเชิงลบรวมถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกันด้วย

ขั้นตอนการเรียนแบบ CALLAN Method

ระหว่างบทเรียน ผู้เรียนจะไม่สามารถดูหนังสือเรียนเป็นเวลา 50 นาที

  • เรียนรู้ประโยคใหม่และคำอธิบายโดยการฟัง
  • ทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ครั้งล่าสุดที่เรียนมา (70% ของเวลาเรียนทั้งหมด)
  • อ่านทบทวนบทเรียนที่ได้เรียนมา
  • เขียนตามคำบอกของประโยคที่ครูอ่าน ตรวจการสะกดคำ

ผู้ที่เหมาะกับการเรียนแบบ CALLAN Method

  • เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่หรือไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ

มี 12 ขั้นตอนในวิธี CALLAN และทั้งหมดเริ่มต้นที่ขั้นตอนที่ 1 เป็นภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ดังนั้นผู้เริ่มต้นใหม่ก็สามารถเรียนได้เช่นกัน สำหรับขั้นตอนที่ 12 เป็นภาษาอังกฤษขั้นสูง ดังนั้นทุกระดับภาษาสามารถเรียนโดยการใช้วิธี CALLAN ได้

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะการสนทนาภาษาอังกฤษไม่สามารถฝึกฝนได้โดยการสนทนาอย่างอิสระ เรียนวิธีนี้จะฝึกฝนจากบทสนทนาการหนังสือเรียนที่จะได้ใช้คำศัพท์และโครงสร้างภาษาอังกฤษโดยอัตโนมัติ 
  • เหมาะสำหรับผู้ที่จะทำการสอบ TOEIC เพราะจะได้คำศัพท์ที่หลากหลายและไวยากรณ์

พัฒนาทักษะ 5 ส่วน ที่ผู้เรียนส่วนใหญ่ต้องการพัฒนามากที่สุด

  1. การตอบคำถามหรือการสนทนาที่เหมาะสม : หลายครั้งเราสามารถตอบคำถามเพียงใช้ Yes/No แต่จริงๆแล้ว มีรูปแบบการตอบที่สมบูรณ์โดยการตอบแบบเต็มประโยค โดยการเรียนแกรมม่าให้ถูกต้องเหมาะสม คุณก็จะสามารถตอบคำถาม หรือโต้ตอบ สนทนากันด้วยประโยคที่ถูกต้องเหมาะสม
  2. การใช้ a, an, the ที่เป็นตัวที่ทำให้ผู้เรียนเกิดความสับสน การเรียนวิธีนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้และตอบโต้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องคิดก่อน
  3.  การใช้ Tense ให้ถูกต้องกับกาลเวลาที่สนทนาเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน
  4. การออกเสียง L, R, Th, B และ V ให้ถูกต้อง
  5. ฝึกฟังการใช้รูปประโยคจากเจ้าของภาษาที่มีความเป็นธรรมชาติ ใช้จริงในชีวิตประจำวัน 

F.A.Q.

คำถามที่พบบ่อย

ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถลงเรียนคอร์สนี้ได้

Scroll to Top